เดฟกระเป๋า หรือ Ant Plant ชื่อวิทยาศาสตร์: Dischidia Pectenoides Pear วงศ์: ASCLEPIACEAE เป็นพืชอิงอาศัยขนาดเล็ก มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลำต้นเลื้อยพัน มีรากออกตามข้อ ลักษณะพิเศษของต้นนี้ คือมีกระเปาะเหมือนกระเป๋าพองๆ เป็นรูปรีๆ สีเขียวคล้ายเปลือกหอย ข้างในกระเปาะเป็นที่อยู่ของกลุ่มราก ต้นเดฟจะมีดอกเล็กๆ น่ารักสีแดงอมชมพู ซึ่งจะบานเพียงเล็กน้อย ทำให้ดูเหมือนว่าดอกตูมตลอดเวลา กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด คล้ายกระสวย มีขนาดเล็ก ใช้ปลูกเป็นไม้แขวนประดับ เพราะรูปทรงสวยงาม สามารถปลูกและตั้งไว้ที่โต๊ะทำงานหรือในบ้าน แต่ถ้าจะโชว์ความสวยงามก็ต้องแขวนตกแต่งระเบียงหรือหน้าต่างอีกทั้งกระเปาะน้อยๆ ที่ดูเหมือนกระเป๋าก็ให้ความรู้สึกเป็นมงคล ประดุจกระเป๋าที่มีเงินทองเต็มบริบูรณ์อยู่เสมอ
การดูแล
หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าต้นเดฟกระเป๋าเป็นพืชแต่งคอนโดสายพันธุ์อวบน้ำ เนื่องด้วยสีและลักษณะของต้นพืชที่มีกระเปาะ แต่ความจริงแล้วต้นเดฟกระเป๋าเป็นพืชที่ชอบแสงแดดรำไร สามารถปลูกได้ทั้งในที่ร่มอย่างการแขวนประดับในตัวอาคาร ห้องน้ำ ริมหน้าต่างหรือแม้แต่การผูกติดกับต้นไม้ชนิดอื่นกลางแจ้งที่มีแดดส่อง ก็ช่วยให้มีการสังเคราะห์แสงได้ดีและมีเปอร์เซ็นต์การมีชีวิตรอดสูง หากได้รับแสงแดดบ่อยต้นเดฟกระเป๋าจะแข็งแรงสมบูรณ์และออกดอกได้ดีกว่ากว่าอยู่ในที่ร่ม
อย่างไรก็ตามไม่ควรทิ้งให้อยู่ในที่ร่มนาน ๆ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาใบเหลืองได้ นอกจากนี้แล้ว
ต้นเดฟกระเป๋ายังไม่ชอบความชื้นแฉะ สิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งคือการรดน้ำบ่อยซึ่งจะทำให้รากชื้นเกินไปเป็นสาเหตุให้เกิดรากเน่าได้
เดฟกระเป๋าที่บ้านค่ะ เวลาฝนตกต้องนำมาแขวนตรงชายคาศาลานั่งเล่นเพื่อหลบน้ำฝน แต่ก็มีบ้างที่โดนน้ำฝนกระเด็นใส่ หลังฝนตกก็นำมาแขวนใต้ต้นกันเกราเพื่อให้รับลม รับแสงแดดกันบ้าง ที่อยู่ของนางก็เลยไม่ค่อยแน่นอนเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศค่ะ
การขยายพันธุ์
เดฟกระเป๋าสามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งวิธีการเพาะเมล็ดและวิธีการปักชำ ซึ่งวัสดุที่เหมาะสมที่สุดในการปลูกคือกาบมะพร้าวสับเพราะมีน้ำหนักเบาไม่อุ้มน้ำมากนัก ภาชนะที่ใช้ปลูกควรเป็นกระถางแขวนที่มีช่องระบายน้ำเยอะ ๆ จะช่วยป้องกันปัญหาการเกิดรากเน่าได้ดี แต่หากต้นเดฟกระเป๋าเกิดปัญหารากเน่าแล้ว ให้ใช้กรรไกรเล็มส่วนที่เน่าเป็นสีน้ำตาลทิ้งไปให้เหลือส่วนที่ยังเขียวสด
ส่วนการรดน้ำให้รดเพียงสัปดาห์ละสองครั้งก็เพียงพอสำหรับระยะเริ่มต้นปลูก เมื่อต้นเติบโตมากขึ้นจึงค่อยลดการรดน้ำให้น้อยลง ด้วยลักษณะเฉพาะที่ต้องการน้ำน้อยนี้เองจึงเหมาะจะใช้เป็นพืชแต่งคอนโด ซึ่งเข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเจ้าของห้องที่อาจไม่มีเวลาดูแลมากนัก
สำหรับวิธีการปักชำ ต้นเดฟกระเป๋าจะมีรากออกตามข้อสามารถตัดไปปักชำในกาบมะพร้าวได้เลย หากกังวลว่าจะเกิดเชื้อรา เราควรทำการพ่นยากันเชื้อราก่อนปักชำ ต้นเดฟกระเป๋าชื่นชอบแสงแดดอ่อน จึงควรนำมาวางไว้กลางแจ้งบ้างก็จะช่วยป้องกันปัญหาการเกิดรากเน่าได้ การให้ปุ๋ยสามารถใช้ปุ๋ยแบบเดียวกับกลัวยไม้ฉีดพ่นได้ค่ะ
ผู้เลี้ยงหลายคนมักมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไม้สายพันธุ์นี้ว่าเป็นพืชอวบน้ำจึงเผลอให้น้ำมากเกินไป จึงมีผลทำให้ต้นเดฟกระเป๋าตายได้ จึงอาจสรุปวิธีการเลี้ยงต้นเดฟกระเป๋าให้ดูเขียวสด เป็นไม้แขวนในบ้านสวย ๆ ให้เชยชมต่อไปอีกนานได้ ดังต่อไปนี้
1.ควรระมัดระวังเรื่องความชื้นให้มาก ต้นเดฟกระเป๋ามีลักษณะตามธรรมชาติที่ไม่ชอบความชื้น ควรรดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้วค่ะ
2. ต้นเดฟกระเป๋าชอบแดดรำไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องวางไว้ในที่ร่มตลอด บริเวณที่มีแสงแดดพอเหมาะสำหรับต้นเดฟกระเป๋า คือบริเวณที่มีแดดพอทำให้กาบมะพร้าวที่ใช้ปลูกแห้งภายในหนึ่งวัน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความชื้นที่เป็นสาเหตุของรากเน่า
3. ยิ่งแสงแดดดี ต้นเดฟกระเป๋าก็จะยิ่งสวยงาม ซึ่งปัญหาที่เกิดกับต้นเดฟกระเป๋าส่วนใหญ่เกิดจากความชื้นมากกว่าการแห้งเหี่ยวตายเพราะแสงแดด
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เรียกได้ว่าต้นเดฟกระเป๋าเป็นไม้ที่น่าเลี้ยง เหมาะกับการแขวนไว้ริมระเบียง ใต้ต้นไม้ ริมชายคาบ้าน ด้วยขนาดของต้นที่เป็นไม้เลื้อย ใช้พื้นที่ไม่มากนักก็ปลูกได้ ทั้งยังชื่นชอบแสงแดดมากอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์พืชที่น่าสนใจทีเดียว หากเพื่อนๆสนใจก็ลองหามาปลูกกันดูนะคะ
ขอบคุณภาพประกอบจาก pinterest.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น