แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ จัดสวน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ จัดสวน แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560

จัดแผ่นทางเดินในสวนแบบไหนดี

วันนี้นำเรื่องการจัดทางเดินในสวนบ้านเรามาคุยกันดีกว่า ว่าเรื่องสุขภาพกันไปบ้างแล้ว เอาแบบสลับสับเปลี่ยน หมุนวนไป เพื่อจะได้ไม่เบื่อกันไปก่อนนะคะ


การจัดสวนหน้าบ้านให้สวยครบทุกองค์ประกอบ แผ่นทางเดินในสวนก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้ที่นั่งในมุมสวน เพราะฟังก์ชั่นหลักๆ ของทางเดินนั้น มีความหมายในตัวที่จะเป็นส่วนซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับเดินชมสวนสวยๆของบ้านเรา  เชื่อมพื้นที่จากส่วนหนึ่งไปยังอีกส่วนหนึ่ง

หากถามว่าแล้วทำไมถึงต้องสร้างทางเดินในพื้นที่สวน คำตอบก็ไม่ยาก เนื่องด้วยพื้นที่สวนนั้นจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องมีทางเดินเพื่อสร้างขอบเขตให้สวน พูดง่ายๆ คือต้องมีส่วนสำหรับเดินชม เดินรอบ หรือเดินไปสู่จุดเด่นของมุมสวนในบ้าน

ทางเดินในสวนถูกจัดแบ่งให้เป็นส่วน Hardscape ในการออกแบบภูมิสถาปัตย์ เป็นเหมือนสิ่งจำเป็นต้องมี วัสดุ ดีไซน์ รวมทั้งการตกแต่งให้ดูดีชวนมองจึงเป็นเรื่องสำคัญควบคู่กับการใช้งานที่คงทนด้วย

1. ทางเดินควรอยู่ตรงไหน
ตำแหน่งที่เป็นทางเดินในสวนนั้น ควรอยู่ในตำแหน่งที่เชื่อมการใช้งานจากในบ้านสู่นอกบ้าน หรือนอกบ้านสู่ในบ้าน หรือจะเป็นพื้นที่รอบๆ สำหรับเดินวนทั่วโดยรอบบ้าน

จังหวะการก้าวเดินก็เป็นเรื่องสำคัญ ควรเลือกวางแผ่นทางเดินขนาด 50-60 เซนติเมตรสำหรับเดินคนเดียว 80-100 เซนติเมตรในกรณีที่เดิน 2 คน และวางในระยะห่าง 30-50 เซนติเมตร (วัดจากศูนย์กลางแผ่นทางเดิน)

ระยะที่ว่านี้เป็นสัดส่วนที่พอดีสำหรับการก้าว หรือควรลองเดินให้พอดีกับจังหวะการก้าวเดิน เพื่อเดินง่าย ก้าวเท้าได้สบาย ให้การเดินในสวนเป็นไปอย่างสุนทรีย์


2. เลือกแผ่นทางเดิน
แผ่นทางเดินที่นิยมกันในท้องตลาดนั้นแบ่งเป็น 2 หมวดใหญ่ๆ ด้วยกัน คือแผ่นทางเดินจากธรรมชาติและแผ่นทางเดินซีเมนต์ ดีไซน์หลากหลายให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับคุณสมบัติของแต่ละวัสดุที่มีความต่างไม้แพ้กัน


แผ่นทางเดินจากธรรมชาติ ได้แก่ แผ่นศิลาแลง หินภูเขาเมืองกาญจน์ หินทราย ไม้หมอน
ซึ่งแผ่นทางเดินจากธรรมชาติเหล่านี้มักจะอยู่ในงานดีไซน์สวนแบบทรอปิคัล สวนป่าดิบชื้น ด้วยคุณสมบัติที่สามารถกักเก็บความชื้นได้นาน ทำให้พื้นที่สวนมีความชุ่มชื่นร่มเย็นด้วย

แต่ข้อด้อยของแผ่นหินธรรมชาติก็คือรูปทรงและลวดลายที่แต่ละแผ่นจะแตกต่างกันไป รวมทั้งผิวสัมผัสที่กร่อนจนคมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และอายุการใช้งานของแผ่นหินบางชนิดที่จะสึกกร่อนตามธรรมชาติ

แผ่นทางเดินสำเร็จรูป ได้แก่ แผ่นทางเดินซีเมนต์ และแผ่นหินสังเคราะห์
ซึ่งวัสดุเหล่านี้ผ่านกระบวนการขึ้นรูปด้วยระบบอุตสาหกรรม สัดส่วนจึงเป็นขนาดมาตรฐานหลากหลายขนาด ตั้งแต่ 20 x 20 และ 40x40 เซนติเมตรขึ้นไป ขนาดที่พอดีนี้ทำให้สามารถคำนวณจำนวนที่ต้องใช้ได้อย่างแม่นยำ ง่ายต่อการจัดวาง รวมทั้งความคงทนแข็งแรง

ปัจจุบันแผ่นทางเดินสำเร็จรูปเป็นที่นิยมนำมาใช้เป็นอย่างมาก ด้วยการผลิตที่รวดเร็วและมีจำหน่ายอยู่ทั่วไป ทั้งในรูปแบบสวนวินเทจและสวนโมเดิร์น รวมทั้งสามารถสร้างลวดลายต่างๆ ลงบนแผ่นทางเดินได้ด้วย

  3. ระหว่างแผ่นทางเดิน
เพื่อความสวยงาม ช่องว่างระหว่างแผ่นทางเดินจึงมักจะถูกประดับตกแต่งด้วยวัสดุและพืชพรรณต่างๆ เพิ่มความสวยงามไม่ว่าจะเป็น

- การโรยหินแกลบซึ่งจะดูแลง่ายให้เท็กซ์เจอร์ดูนุ่มนวล ระบายน้ำขังลงสู่พื้นดินได้อย่างรวดเร็ว

- การปลูกหญ้าสลับ ทั้งหนวดปลาดุก หญ้านวลน้อย หญ้ามาเลเซีย เฟิร์นกนกนารี มอส ถั่วบราซิล

หากอยากเลือกปลูกพืชสลับกับแผ่นทางเดินแล้วไม่ควรลืมว่าพืชชนิดนั้นจะต้องดูแลง่าย ทนต่อการเหยียบย่ำ สามารถทนฝนได้ดีและสามารถระบายน้ำขังลงสู่ดินได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีหนามแหลมที่จะทำให้เกิดอันตรายระหว่างก้าวเดิน

ข้อดีของการเลือกต้นไม้ปลูกสลับก็เห็นจะเป็นเรื่องความสวยงามที่จะช่วยดึงความแข็งกระด้างของแผ่นทางเดินให้พื้นที่ดูนุ่มนวลขึ้น แต่หากเลือกโรยก้อนกรวด หินแกลบเม็ดเล็ก ก็จะดีตรงที่ไม่ต้องดูแลรักษาให้วุ่นวาย

4. สองข้างทางก็ควรคิดถึงเรื่อง
ความโปร่งโล่งยังเป็นเรื่องสำคัญ หากเลือกได้ต้นไม้ที่ปลูกประดับสองข้างทางเดินควรสูงไม่เกินระดับสายตา ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความรู้สึกปลอดภัย หากเป็นต้นไม้ใหญ่ควรตัดกิ่งให้พ้นระดับศีรษะเพื่อความปลอดภัย และไม่ควรเลือกต้นไม้ที่มีหนาม มียาง หรือมีขน ที่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองเมื่อสัมผัส

สำหรับบางท่านก็ที่ชอบซุ้มไม้เลื้อยอย่างสร้อยอินทนิล พวงคราม พวงชมพู เล็บมือนาง ก็สามารถสร้างทางเดินลอดซุ้มรอบๆ สวนได้ หากแต่ต้องระวังสัตว์เลื้อยคลานอย่างงูเขียวที่จะชอบมาอาศัยอยู่เพียงเท่านั้น


5. ขั้นตอนง่ายๆ ในการปูแผ่นทางเดิน
สิ่งที่ทางเดินในสวนต้องมีนอกเหนือจากความปลอดภัยและความสวยงามก็คือ การระบายน้ำลงดินอย่างรวดเร็ว การปูแผ่นทางเดินในสวนส่วนใหญ่จึงไม่นิยมราดซีเมนต์เป็นทางยาวเพราะนอกจากจะไม่ก่อให้เกิดความสวยงามแล้วยังก่อให้เกิดเป็นแอ่งน้ำท่วมขังด้วย

สำหรับวิธีปูทางเดินในสวนนั้นมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. ปรับหน้าดินให้เรียบเป็นทางเดินยาวในแบบที่ต้องการ

2. ใช้ทรายรองหน้าดินอีกชั้นเพื่อให้ระบายน้ำลงสู่ดินได้อย่างรวดเร็ว หรืออาจจะให้เทคนิคอื่นๆ เข้าช่วยอาทิ ปูตาข่ายพลาสติก หรือจะเทซีเมนต์เจาะรูระบายน้ำให้ทั่วก็จะมีความคงทนยิ่งขึ้น

3. วางแผ่นทางเดินตามระยะที่กำหนดไว้จากนั้นก็ตกแต่งรอบๆ ทางเดินตามที่ออกแบบไว้

ขอบคุณข้อมูลจาก SCG.building material




หลากหลายรูปแบบในการจัดวางแผ่นทางเดินในสวนบ้านของเรา เพื่อนๆลองเลือก ชอบแบบไหนก็จัดกันไป จะจัดเองโดยค่อยๆทำไป หรือจะจ้างคนมาช่วยจัดก็แล้วแต่ความสะดวกนะคะ เสร็จแล้วเรานั่นล่ะที่ได้มองและชื่นชมกับมัน ความสุขรอบบ้านจริงๆ ไม่ต้องไปเสาะหาที่ไหนเลย พอหอมปากหอมคอกันไปบ้างกะสวนสวยๆ ทางเดินสวยๆของเรา ครั้งหน้าจะว่าด้วยเรื่องอะไร รอติดตามกันนะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ศาลาพักผ่อน...มุมนั่งเล่นบ้านเรา

บ้านของคนเรานั้นใช่ว่าแต่จะมีการอาศัยในบ้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในบางครั้งเราต้องออกมานั่งเล่นนอกบ้านเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์หรือทำกิจกรรมอื่นๆเช่น การออกกำลังกาย การนั่งพักผ่อนคลายเครียดเวลาที่ทำงานหนักๆ เราจึงได้รวบรวมภาพไอเดียการตกแต่งภายนอกบ้านให้เป็นมุมนั่งเล่นหน้าบ้านหรือเป็นมุมนั่งเล่นในสวน  ให้เพื่อนๆได้นำแบบการออกแบบมุมนั่งเล่นไปประยุกต์ใช้กับบ้านของตัวเองได้เลย



ข้อคำนึงในการออกแบบมุมนั่งเล่นในสวน

- วัสดุในการก่อสร้าง เพราะมุมนั่งเล่นในสวน  หรือมุมนั่งเล่นข้างบ้าน จะต้องตากแดดตากฝนเป็นเวลานานๆหากเราใช้ไม้เป็นวัสดุในการก่อสร้างก็อาจจะทำให้ผุกร่อนได้ หรือหากใช้ไม้ก็ควรมีที่บังแดดบังฝนให้ด้วย


- สถานที่ก่อสร้าง มุมนั่งเล่นควรสร้างอยู่บริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวกและเหมาะแก่การนั่งเล่นพักผ่อน คงไม่ดีนักหากเราสร้างมุมนั่งเล่นไว้ใกล้ๆกับห้องน้ำที่มีกลิ่นและสิ่งแวดล้อมที่ไม่ค่อยดี



มุมนั่งเล่นนอกบ้าน นั้นเป็นสิ่งจำเป็นมากเลยทีเดียวเพราะคงไม่มีมนุษย์คนไหนอยู่แต่ในบ้านแน่นอน หากเราไม่สามารถทำมุมนั่งเล่นในสวนหรือมุมนั่งเล่นหน้าบ้านได้ ก็อาจจะดีไซน์มุมนั่งเล่นข้างบ้านเล็กๆหรือเอาไว้บนระเบียงชั้น 2 ของตัวบ้านก็ได้








การตกแต่งจัดสวนภายในบริเวณพื้นที่ว่างของบ้าน ในทุกพื้นที่ของบ้าน เป็นการช่วยเพิ่มให้คนในบ้านได้แนบชิดกับธรรมชาติได้มากที่สุด และทำให้บ้านดูสดชื่นมากขึ้น

มุม” โปรดของบ้านเพื่อนๆ คือส่วนไหนกันบ้างคะ เพราะว่ามุมโปรดที่ว่านี้มักทำให้คนในบ้านได้พักผ่อนอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังได้รับกลิ่นไอจากธรรมชาติสีเขียวอย่างแท้จริงในบริเวณสวนที่เราสร้างขึ้น เพื่อให้มุมโปรดของทุกคนได้มีความร่มรื่นอย่างลงตัว การตกแต่งจัดสวนภายในบริเวณพื้นที่ว่างของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นข้างบ้าน หลังบ้าน หรือแม้แต่กระทั่งบนดาดฟ้าของบ้านก็สามารถทำได้ค่ะ เป็นการช่วยเพิ่มให้คนในบ้านได้แนบชิดกับธรรมชาติได้มากที่สุด และยังเพิ่มให้บ้านดูสดชื่นมากขึ้น ยิ่งถ้าเป็นคนที่ชอบธรรมชาติอยู่แล้ว เราว่าแบบนี้มันดูเหมาะมากที่สุด เพราะนอกจากจะจัดพื้นที่ชอบให้เป็นสวนแล้ว เรายังสามารถที่จะนำโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา มาวางไว้ให้เป็นที่นั่งชมวิว ชมสวนรอบบ้านที่เราลงมือตกแต่งด้วยตัวเอง เป็นการนั่งชื่นชมผลงานของตัวเองไงล่ะคะ

เอามุมโปรดของเรามาให้เพื่อนดูบ้างค่ะ ที่บ้านจัดแบบสำเร็จรูปไปเลย เดินหาซื้อตามร้านที่เค้าตั้งโชว์เอาไว้ขาย มีหลายแบบ หลายวัสดุที่ใช้ทำ ไม้จริง ไม้เชอร่า แล้วแต่เราชอบค่ะ ของเราเลือกแบบไม้จริง ที่นั่งพิงเป็นแบบกงล้อเกวียน หายากอยู่และความคงทนสูง คุณสามีดูแล้วเลยเลือกแบบนี้ล่ะ  วันติดตั้งเค้ายกมาเป็นชิ้น มาประกอบที่บ้านจนเป็นรูปเป็นร่าง แบบนี้ค่ะ











ขอบคุณข้อมูลและภาพจากบ้านและสวน
จาก http://homedeedeeforyou.com/

วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ไม้ดอกสวยงาม...ยามสาย

วันนี้เอาไม้ดอกสีสันสวยงามในกระถางมาอวดค่ะ ชอบมากๆกับสีสันความสดใสยามสายของเจ้าดอกแพรเซี่ยงไฮ้ คุณเธอเป็นพืชดอกล้มลุกในวงศ์ผักเบี้ย ลำต้นและใบอวบน้ำ มีดอกหลายสี แพรเซี่ยงไฮ้ยังมีชื่อพื้นเมืองอื่นอีกดังนี้ ดอกผักเบี้ย แดงสวรรค์ และผักเบี้ยฝรั่ง นอกจากนี้แพรเซี่ยงไฮ้คลุมดิน ยังทำให้ดอกสวยดินไม่ทลาย สำหรับเนินดินอีกด้วย วันนี้เราเลยนำไอเดีย การแต่งสวนสวยด้วยแพรเซี่ยงไฮ้ Moss rose มาฝากค่ะ



คุณนายตื่นสายหรือแพรเซี้ยงไฮ้มีความแตกต่างกันตรงที่ คุณนายตื่นสายจะเป็นดอกชั้นเดียว แต่ แพรเซี่ยงไฮ้ Moss roseจะมีดอก 2 ชั้น นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างเรื่องใบ คุณนายตื่นสายจใบทรงแบนแต่แพรเซี่ยงไฮ้จะมีใบเรียวๆแหลมดอกจะมีหลายสี ทั้งสีม่วง สีบานเย็น สีส้ม สีแดง สีขาว สีเหลืองและสีชมพู



แพรเซี่ยงไฮ้ ที่เพื่อนๆ เรียกเหมารวมกับ คุณนายตื่นสายมาตลอดก็มี แต่จริงๆแล้วทั้งสองการปลูกการขยายพันธุ์และการดูแล เลี้ยงง่ายโตเร็ว จะปลูกคลุมดินหรือเป็นไม้แขวนก็ได้สวยงามทั้งนั้นค่ะ












เห็นถึงสีสัน ความสวยงามของคุณเธอทั้งหลายหรือยังคะ เถียงไม่ออกเลยน่ะสิว่าสีสวยเด่นมาแต่ไกล น่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มดีค่ะ ปลูกมุมไหนมองแล้วสวยงามไปหมด ครั้งหน้าจะเอาไม้มงคลที่มีดอกสวยงามมาฝากอีกนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อซะก่อนล่ะคะ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก ihome108






วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560

การจัดสวนทางทิศตะวันตก

อากาศร้อนๆ ส่งผลกระทบต่อสวนโดยตรง ยิ่งหากมุมสวนของบ้านตั้งอยู่ในทิศตะวันตกด้วยแล้ว ยิ่งต้องดูแลเป็นการใหญ่ ซึ่งอย่างที่เข้าใจกันดีว่า “สวนช่วยให้บ้านเย็น” ตำแหน่งของสวนจึงมักถูกวางให้บังความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวอาคารโดยตรง นั่นคือทิศตะวันตก แม้จะเป็นมุมที่ไม่เป็นต่อผลดีต่อต้นไม้สักเท่าไหร่ แต่การจัดสวนในทิศนี้ก็เป็นอีกทางแก้ปัญหาให้บ้านเย็นได้ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีวิธีไหนช่วยให้สวนเย็นบ้านเย็นในฤดูร้อนกันบ้าง

 ข้อดีข้อเสียของสวนทิศตะวันตก


       ทิศตะวันตกเป็นตำแหน่งที่รับแสงแดดในช่วงบ่ายของวัน ซึ่งเป็นแดดแรงและยาวนานถึง 6 ชั่วโมง ในการออกแบบบ้านจึงนิยมเหลี่ยงการใช้งานพื้นที่ส่วนนี้ในช่วงเย็นและมักถูกออกแบบให้ห้องน้ำอยู่ในตำแหน่งนี้ และแยกห้องนอนให้ห่างด้วยว่าเป็นพื้นที่ใช้งานในช่วงเย็นของวัน ซึ่งตกดึกผนังซีเมนต์จะคายความร้อน ส่งผลให้ห้องนอนมีอากาศร้อนอบอ้าวทำให้หลับไม่สบาย

       ตำแหน่งของสวนก็เช่นเดียวกัน หากอยู่ในทิศตะวันตกแล้ว สวนจะทำหน้าที่บังแดดแรงในช่วงบ่ายของวันพร้อมๆ กับทำหน้าที่จับฝุ่นละอองไม่ให้พัดปลิวเข้าสู่ภายในบ้าน หากจัดสวนในมุมนี้จะช่วยให้มีพื้นที่ใช้งานในช่วงบ่ายของวันโดยที่ไม่ต้องอยู่ในบ้านเพียงอย่างเดียว  ส่วนข้อเสียที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ความร้อนของแดดที่พร้อมจะทำลายต้นไม้แสนรัก การเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมและการวางระบบน้ำ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ

การแก้ปัญหาสวนร้อนบ้านร้อน เป็นสิ่งที่สามารถวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ เริ่มจากขั้นตอนของการออกแบบ การวางตำแหน่งของอาคาร ดูทิศทางแสงทิศทางลม หากมีการออกแบบที่ดีปัญหาเรื่องความร้อนในการพักอาศัยก็จะน้อยลง การจัดสวนก็เช่นกัน หากเลือกตำแหน่งองค์ประกอบในสวนให้ดี เหมาะสมกับการใช้งาน สอดคล้องกับความสวยงามที่เจ้าของบ้านชื่นชอบ สวนก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บ้านเย็นและเป็นตัวชูโรงให้บ้านสดชื่นน่าอยู่ด้วย
  

ที่บ้านคุณสามีจึงวางแผนไว้แต่แรกเริ่มเลย ลงต้นไผ่เลี้ยงเป็นแผงเรียงกันบริเวณที่ซักล้าง ประโยชน์บังแดดได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ มุมนี้เลยเป็นมุมที่ใ้ห้ความร่มเย็นทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่ายเลยค่ะ ลมลงบริเวณนี้ตลอดวัน จนอยากจะย้ายเก้าอี้หรือศาลาพักผ่อนมาไว้จะได้นั่งๆนอนๆแบบสบายอุราไปเลย อิอิอิ ตอนนี้ที่ทำอยู่คือยกเก้าอี้หวายมาตั้งเป็นครั้งคราวไปค่ะ


อ้อ...ลืมบอกไปอย่างค่ะ เวลาปลูกไผ่ลงดินบริเวณข้างกำแพง ควรให้ห่างจากกำแพงมากๆหน่อยก็ดีนะคะ เวลาใบไผ่ร่วงจะได้ไม่ปลิวเข้าไปรบกวนบ้านข้างเคียงน่ะค่ะ การตัดแต่งกิ่งก็ต้องทำบ่อยๆเพราะไผ่เติบโตแตกกิ่งก้านเร็วมากค่ะ ส่วนระยะการปลูกห่างกันสักหลุมละครึ่งเมตร เรียงไปตามแนวยาวตามที่เราต้องการได้เลยค่ะ ปลูกลงดินได้เลย ไผ่หากินผิวดิน  หรือจะใส่กระถางก็ได้    แต่ควรหากระถางที่เข้ากับต้นไผ่และภูมิทัศน์ตรงนั้นด้วย(แต่ลงดินง่ายสุด ขออย่างเดียวให้มีน้ำพอค่ะ)
การควบคุมการโต หรือการแผ่กอก็แค่ตัดหน่อออกไปแกงกินบ้างแจกเพื่อนบ้านบ้าง คือเลือกตัดหน่อที่เราไม่อยากให้เขาโตขึ้นลำตรงนั้นออกไปค่ะ ส่วนเรื่องความสูงเราสามารถตัดเรือนยอดของลำไผ่เพื่อจำกัดความสูงได้ คืออาจปล่อยให้หน่อโตเป็นลำได้ความสูงที่เราต้องการก็ตัดยอดลำนั้นได้เลย  ส่วนมุมไหนเราจะปล่อยลำให้สูงขึ้นไปก็ไม่ต้องตัดยอดเขาค่ะ เอามาฝากแค่นี้ก่อนนะ รอติดตามเรื่องอื่นกันบ้างดีกว่ากลัวจะเบื่อซะก่อนจ้า

วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ความสดชื่นรอบบ้านเรา

เช้านี้ตื่นมาพร้อมความสดชื่น สดใส เหมือนต้นไม้ได้รับน้ำฝนเลยค่ะ เมื่อคืนฝนตกลงมาน้อยนิดแต่ก็ช่วยให้บรรยากาศรอบบ้านมีความชื้นบ้าง ไม่ร้อนจนเกินไป เดินชมสวนรอบๆบ้าน ฉีดพ่นน้ำให้เจ้าต้นไม้กระจิ๊ดริดซะหน่อย เก็บกวาดใบไม้หน้าบ้าน  เอาเป็นว่าได้ออกกำลังกายบ้างในทุกเช้า แต่วันนี้น้อยกว่าหน่อยนึงเพราะไม่ต้องเดินรดน้ำให้ต้นไม้ใหญ่ ฝนช่วยแบ่งเบาค่าน้ำไปได้บ้าง อิอิอิ งั้นดูทีวีไปคงต้องยกขายกแข้งไปบ้างล่ะ อ้าวก็ออกกำลังในร่มก็ได้ซิ...วันนี้ไม่รีบร้อนไปไหน นอนเล่นอยู่แต่บ้านก็เลยขยันอัฟรูปสวนรอบบ้านมาให้ชมกันนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อล่ะ ไม่มีสาระแต่ชมภาพสวยๆไปพรางๆก่อนน๊า

ฝากสวนสวยๆ และส่งความสดชื่นมาให้ก่อนนะ แต่อันนี้ต้องขอขอบคุณภาพจากกูเกิ้ล ที่กรุณาให้ภาพสวยๆ สีสันสดใสมาให้ชมค่ะ



คุณนายตื่นสาย แพรเซี่ยงไฮ้ ปลูกคลุมดินโคนต้นจันผา บนิเวณหน้าบ้านค่ะ ยามสายคุณเธอจะบาน ส่งความสดชื่นให้เราได้ยล มองแล้วชีวิตมีสีสันค่ะ


ดอกประยงค์บริเวณด้านหลังบ้าน กำลังออกดอก เต็มต้นเลยค่ะ จัดวางคุณประยงค์ด้านทิศใต้เพื่อจะได้ให้ลมช่วยพัดพากลิ่นหอมๆมาให้เราได้ดมดอม



สวนข้างบ้านเรา ตรงนี้มองจากมุมพักผ่อนในบ้านและมองจากศาลาพักผ่อน ก็จะเห็นต้นพุดพิชญาดอกใหญ่มาก สีขาวสะอาดตา มองแล้วเป็นมุมหนึ่งที่เราชอบมากๆ มุมนี้เราจัดสวนเองด้วยนะ อุตส่าห์ไปเดินหาพุดพิชญาพันธ์ดอกใหญ่มา ได้มา 6 ต้น เลี้ยงจนโตสูงพ้นกำแพงบ้านแล้วล่ะ ตอนนี้เลยต้องจำกัดความสูงของเค้าโดยเด็ดใบอ่อนบนยอดทิ้ง ขอหยุดความสูงแต่ให้เพิ่มความหนาแน่นด้านล่างแทนแล้วกันนะ



มาให้ชมแล้วจ้า เหลืองจันทบูรณ์ ต้นนี้นำมาเกาะต้นกันเกราได้ครบปี คุณเธอก็มอบความสดชื่น สดใสด้วยสีเหลืองละออตาแก่เรา ตอนแรกนึกว่าจะไม่รอดซะอีก ปีหน้าคงออกช่อดอกมากกว่านี้เป็นแน่แท้...รอดูกันไปนะคะ



กอนี้ หวายค่ะ ซื้อมาแล้วนำมาเกาะตอไม้เก่า ลองดูอีกไม่นาน รากคงเกาะ ดอกเค้าสีชมพูหวานเชียว



กระเช้านี้ก็หวายค่ะ ได้มา 2 กระเช้าใหญ่ ตอนช่วงทำบุญขึ้นบ้านใหม่ค่ะ ดอกใหญ่มาก สีขาวออกชมพู แนวหวานๆ ใสๆ ดอกดกมาก เวลาออกช่อดอก จะออกพร้อมๆกันจนเรา กลัวว่ากิ่งของช่อดอกจะรับน้ำหนักไม่ไหว อิอิอิ 



สวนน้อยๆรอบบ่อปลาจ้า สวนนี้เราจัดเอง หาต้นไม้มาลงเอง ค่อยๆทำไป ยามว่างช่วงบ่ายๆบริเวณนี้จะร่มรื่น เย็นสบาย เป็นจุดรับลม ชมวิวของบ้านเราเลยนะ บริเวณขอบบ่อปลาวางต้นสัปรดสี ซึ่งเดิมมีอยู่แค่ 2 ต้นเอง ตอนนี้แตกหน่อออกมาเพิ่มให้เราอีกหลายต้นเลยล่ะ ถัดไปก็มีต้นเตยหอม เตยด่าง ฤาษีผสม เศรษฐีเรือนนอก ยี่โถแคระ กนกนารีและเฟิร์น นำมาจัดสวนรวมกันเป็นอีกมุมหนึ่ง 
ส่วนอีกมุมหนึ่งของบ่อปลาก็ลงเฟิร์นกอใหญ่ ปริกหางกระรอก เล็บครุฑด่าง และแถวยาวเลยล้อมรอบบ่อ ลงต้นพุดศุภโชค ดอกเล็กๆขาวๆสวยงามน่ารัก และสุดท้ายมองไปที่เห็นก็คือเฟิร์นข้าหลวงนั่นเอง

เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ สวนอีกด้านของบ้าน ยังไม่กล่าวถึงเลย แต่ชักไม่ไหวล่ะ แบตจะหมด ขอบายก่อนนะคะ เจอกันครั้งหน้าแล้วกันจ้า


วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2560

จัดสวนรอบบ้านกันต่อ...ดีมั้ย

  หลังจากลงต้นไม้ใหญ่ไปครบหมดแล้ว คราวนี้ก็ถึงรอบของต้นไม้น้อยๆกันบ้างนะ อ้อ!ลงหญ้ารอบบ้านกันเลยล่ะ ขอแบบมองไปทางไหนก็เขียวขจีไปทั่ว ชื่นตาเย็นอุรากันทุกวัน แต่หลังจากลงต้นไม้เรียบร้อยแล้ว ต้องวางแผนรดน้ำต้นไม้กันต่อนะ ไม่ใช่ปลูกแล้วทิ้ง คิดซะว่าได้ออกกำลังกายกันทุกวัน อย่างน้อยก็เดินรอบบ้าน แกว่งแขน ก้มๆเงยๆ คุยกะต้นไม้ไปด้วย แค่นี้ก็สุดฟินล่ะ...ขอบอก เดี๋ยวมาดูกันว่ามีต้นไม้ชนิดใดบ้างนะที่เข้ามาเป็นสมาชิกในบ้านเรา ดูภาพไปก่อนนะคะ

(ด้านข้างบ้านลงต้นฟ้าประทานหรือเรียกอีกอย่างว่าต้อยติ่งเทศ ยามเช้าดอกจะบาน มองแล้วสดชื่น)

(ต้นสูงคือจันทน์กะพ้อ ด้านล่างไม้คลุมดินมีทั้งแพรเซี่ยงไฮ้และฤาษีผสม มองไปริมรั้วด้านขวา มีต้นโมกและต้นใบนาค)

(ด้านหลังบ้านริมรั้วปลูกต้นไผ่ ตามหลักฮวงจุ้ยและแซมด้วยต้นต้อยติ่งเทศ แต่ช่วงหลังเราได้เอาต้นกล้วยกับต้นมะพร้าวน้ำหอมมาลงแซมเพิ่ม ต่อไปบริเวณนี้อาจจะลงเป็นพืชสวนครัวเพิ่มอีกก็ได้)

ต้นนี้เพิ่งได้มาหลังสุดไปหาซื้อมาลงกระถางใหญ่ เคยได้ดูละครย้อนยุคทางทีวีแต่จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้วที่นางเอกชื่อแม่ประยงค์ ต้นนี้ล่ะชื่อต้นประยงค์ ดอกจะมีกลิ่นหอมอ่อน ดมแบบติดจมูกไม่ได้กลิ่นนะ แต่จะได้กลิ่นหอมแบบลอยลมจ้า เค้าชอบแดดและน้ำแบบต้นแก้ว เลยจัดไว้ใกล้กันซะเลย
แผงนี้ลงใกล้กำแพงไปเลย จุดชมวิวด้านข้างบ้าน มองผ่านประตูกระจกข้างบ้านจะได้ยลโฉมคุณเธอ มองเป็นกำแพงดอกไม้ พุดพิชญาดอกใหญ่ ต้นสูงชลูดพ้นกำแพงแล้วล่ะ ให้ดอกตลอดไม่เคยขาด ชอบแดดแต่ไม่ค่อยชอบน้ำ ส่วนด้านล่างปลูกคลุมดินก็มีทั้งหลิวและแพรเซี่ยงไฮ้ เวลาดอกบานยามสาย มองแล้วสดชื่น สดใสจังเลย

ยี่โถแคระ ไม้ที่หนูกลัวหรือเรียกกันว่าไม้กันหนู เวลาออกดอก สวยหวานด้วยเพราะดอกเป็นสีชมพูแต่ใครจะรู้มั้ยว่าพิษมันเยอะ

ถัดจากยี่โถแคระ ก็มาเจอฤาษีผสมอีกสี  แดงสดเชียวใบใหญ่มาก ต้นสูงต้องคอยตัดแต่ง ไม่งั้นมันขึ้นขยายพื้นที่ล้ำขอบเขตต้นอื่นเค้าหมด


วันนี้เอามาให้ดูแค่นี้ก่อน พอหอมปากหอมคอล่ะกัน รอบหน้าค่อยเพิ่มต้นไม้รอบบ่อปลาที่เราเอามาลงเอง จัดสวนเอง ลงมือไปหาซื้อเอง ถอนหญ้าเก่าออก พรวนดินเอง ปรับพื้นเอง นั่งทำจนเมื่อยหลังไปหลายวันเลย ยังไงอย่าเพิ่งเบื่อซะก่อนล่ะ พูดเรื่องต้นไม้เมื่อไรยังมีเรื่องเล่าอีกแยะ 555


วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560

มาต่อภายนอกบ้านกันบ้างดีกว่า

       เรื่องตกแต่งภายในบ้านที่เป็นส่วนใหญ่ๆและต้องจ่ายเงินแยะๆผ่านไปล่ะนะ เบาตัวไปเลยซี่ หุหุหุ ก็ว่ากันไป เรื่องเงิน ครายยยว่าไม่หย่ายยยยล่ะ บอกมาซิ!!!!!




        มาว่าเรื่องของฟรีที่ทางโครงการจัดให้บ้านเรากันบ้างเนอะ ลืมบอกไปว่ามีต้นไม้รอบบ้านด้วย เค้าจัดให้ฟรีคิดรวมไปแล้วกับราคาบ้านอ่ะนะ....ต้นไม้ใหญ่ 3 ต้น  ปีบ 2 ต้น,กระโดน 1ต้น ว่าไป ปีบหอมดีแต่ใบและดอกร่วงแล้วเก็บกวาดยากส์ เลยขอเปลี่ยนจากปีบ 2 ต้น มาเป็นกันเกรา 1 ต้นใหญ่ เราคุยกะเค้าก่อนที่จะเอามาลง นานทีเดียว พอได้มาก็จับมาลงหน้าบ้านเลย ซินแสแนะนำให้ลงหน้าบ้านในตำแหน่งที่ตรงข้ามกะเสาไฟฟ้าเพื่อช่วยลดแรงปะทะ (ข้อนี้คนที่เล่นเรื่องฮวงจุ้ยเค้ารู้กันดี ) กันเกราเป็นไม้มงคลที่คนนิยมปลูกไว้ในบ้านกันมาก วันนี้จึงจะนำเรื่องต้นไม้มาบอกเล่าเก้าสิบให้เพื่อนๆฟังกันนะ อย่าเพิ่งเบื่อกันล่ะ ชีวิตเรากะธรรมชาติแยกกันไม่ออกนะ ต้นไม้ช่วยเราได้เยอะเลยนะ เวลาเหงา ยามว่างเราก็ได้ต้นไม้ช่วยผ่อนคลายจ้า เราชอบความสดใส สีเขียวขจีของต้นไม้ทำให้จิตใจเราชื่นบานและ มีอะไรให้ทำได้อีกมากมายกะต้นไม้รอบตัวเรา ยังไงลองมาส่องบล็อกเราเรื่อยๆแล้วกันเนอะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้น๊า เอาล่ะมาว่าเรื่องกันเกรากันดีกว่า

กันเกรา : ไม้ดอกพื้นบ้านดั้งเดิมของคนไทย

กันเกราเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นสูงเต็มที่ราว ๒๐-๓๐ เมตร พบขึ้นอยู่ตามธรรมชาติทุกภาคของประเทศไทยบริเวณที่ลุ่ม ริมน้ำ หรือป่าดิบ พบมากบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ กันเกรามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Fagraea fragrans Roxb. อยู่ในวงศ์ Loganiaceae (บางตำราว่าอยู่ในวงศ์ Potaliaceae) ลำต้น มีเปลือกหยาบ สีน้ำตาลปนดำ แตก ระแหงเป็นร่องไม่เป็นระเบียบ ปลายกิ่งห้อยลง ใบออกเป็นคู่ๆ ตรงข้ามกัน ใบสีเขียวแก่ค่อนข้างหนา รูปทรงยาวรี ปลายใบแหลม โคนใบเรียว เป็นครีบไปตามก้าน ใบยาวราว ๘-๑๒ เซนติเมตร กว้างยาว ๒.๕-๓.๕ เซนติเมตร ก้านใบยาว ๑-๒ เซนติเมตร

ดอกออกเป็นช่อตามง่ามใบหรือปลายกิ่ง เมื่อดอกบานใหม่ๆ เป็นสีขาว แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ดอกเป็นรูปแตรหลอดยาว ราว ๑ เซนติเมตร ปลายหลอดเป็นกลีบ ๕ กลีบ ปลายกลีบแบนมน ม้วนไปด้านหลัง มีเกสรตัวผู้ ๕ อัน ก้านเกสรตัวผู้ยาวพ้นปากดอกประมาณ ๑ เซนติเมตร ในแต่ละช่อดอกมีดอกย่อยอยู่รวมกันราว ๑๕-๒๕ ดอก ทยอยบานติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีกลิ่นหอมอยู่ได้ราว ๗ วัน ดอกกันเกราเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมแรง และส่งกลิ่นไปได้ไกลที่สุดชนิดหนึ่ง แต่กลิ่นหอมเย็นชื่นใจ ไม่ฉุนจัดเหมือนดอกราตรีที่หอมแรง และส่งกลิ่นไปได้ไกลเช่นเดียวกัน ผลกันเกรามีขนาดเล็กประมาณ ๐.๖ เซนติเมตร เมื่อแก่มีสีแดง







กันเกรามีเนื้อไม้สีเหลืองอ่อน ละเอียด แข็ง ทนทาน ป้องกันปลวกได้ดี คนไทยรู้จักกันเกราเป็นอย่างดีทุกภาค เพราะเป็นต้นไม้พื้นบ้านดั้งเดิมที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยนี้เอง ในหนังสืออักขราภิธานศรับท์ พ.ศ.๒๔๑๖ กล่าวถึงกันเกราว่า  "กันเตรา : ต้นไม้อย่างหนึ่ง แก่นทำเสาทนนัก ใช้ทำยาแก้โรคบ้าง มีอยู่ในป่า" น่าสังเกตว่าในหนังสืออักขราภิธานศรับท์ เรียกกันเกราว่า กันเตรา แต่สุนทรภู่เรียกชื่อในนิราศพระบาทว่ากันเกรา เช่นเดียวกับในลิลิตตะเลงพ่าย พระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ภาคเหนือและอีสานเรียก มันปลา ภาคใต้เรียก ตำเสา หรือทำเสา ส่วนภาษาอังกฤษเรียก Tembusa

ประโยชน์ของกันเกรา

เนื่องจากกันเกราเป็นต้นไม้พื้นบ้านดั้งเดิมของไทย คนไทยจึงรู้จักคุ้นเคยและใช้ประโยชน์จากกันเกราหลายด้านด้วยกัน ด้านใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรค ตำราประมวลสรรพคุณยาไทยว่า ด้วยพฤกษชาติฯ ของโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ สำนักวัดพระเชตุพนฯ บรรยายสรรพคุณเอาไว้ว่า "แก่น : รสเฝื่อน ฝาด ขม เข้ายาบำรุงธาตุ แก้ไข้จับสั่น แก้หืด ไอ มองคร่อ (โรคชนิดหนึ่ง เสมหะแห้งอยู่ในลำหลอดปอด) ริดสีดวง ท้องมาน แน่น หน้าอก ลงท้องเป็นมูกเลือด แก้พิษ ฝีกาฬ บำรุงม้าม แก้เลือดลมพิการ เป็นยาอายุวัฒนะ เปลือกบำรุงโลหิต ผิวหนังพุพอง ปวดแสบปวดร้อน" ในตำราบางเล่มมีสรรพคุณเพิ่มเติมคือ "บำรุงร่างกาย แก้ปวด ตามข้อ แก้ไข้"

นอกจากแก่นแล้ว เปลือกของกันเกราก็ใช้ทำยาได้ แต่สรรพคุณน้อยกว่าแก่น หลายตำราจึงไม่ได้เอ่ยถึงสรรพคุณของเปลือกเลย เนื้อไม้กันเกรานับเป็นเนื้อไม้ชนิดดียิ่งอย่างหนึ่ง เพราะมีสีเหลืองอ่อน เนื้อละเอียด เหนียว แข็ง ทน ทานมาก ทนปลวกได้ดี ตกแต่งง่าย ขัดเงาได้งดงาม เหมาะสำหรับทำพื้นบ้าน ทำเสาเรือน (มีบรรยายไว้ใน หนังสืออักขราภิธานศรับท์ว่า "แก่น ทำเสาทนนัก" และชื่อในภาคใต้คือต้นทำเสา) ทำเครื่องเรือน ทำโลงศพของชาวจีน (หีบจำปา) เหมาะแก่การแกะสลัก เป็นต้น มีชื่อทางการค้าในภาษาอังกฤษว่า Anan แต่มีจำหน่ายในตลาดน้อย เพราะค่อนข้างโตช้า และไม่ขึ้นเป็นป่าพื้นที่กว้างใหญ่เหมือนไม้เศรษฐกิจชนิดอื่น

ในประเทศไทยถือว่ากันเกราเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง แม้ไม่ระบุให้ใช้ปลูกรอบบ้านเรือนที่อยู่อาศัย แต่ใช้เป็นไม้เสาเข็มในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคาร ซึ่งเสาเข็มนี้มีไม้ ๙ ชนิด ไม้กันเกราเป็นไม้มงคลอันดับที่ ๓ เชื่อว่ากันเกราช่วยปกป้องคุ้มครองและป้องกันภยันตรายต่างๆ ได้ กันเกราเป็นต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบ รูปทรงพุ่มงดงาม กล่าวคือ เมื่อยังไม่โตเต็มที่ทรงพุ่มเป็นรูปกรวยปลายมน เมื่อโตเต็มที่แล้วทรงพุ่มค่อนข้างกลม ใบเขียวเข้มเป็นมัน ปลูกง่ายแข็งแรงทนทาน เหมาะปลูกในบริเวณบ้านหรือที่สาธารณะ ประกอบกับดอกที่มีกลิ่นหอมแรง ส่งกลิ่นไปไกล ทั้งยังหอมสดชื่นไม่ฉุน จึงน่าปลูกอย่างยิ่ง แม้กันเกราจะค่อนข้างโต้ช้า แต่หากผู้ปลูกเอาใจใส่บ้างพอสมควรก็จะได้ชื่นชม รูปทรง ร่มเงา และกลิ่นหอม ภายในเวลาไม่เกิน ๑๐ ปี แล้วหลังจากนั้นก็จะได้รับคุณค่าดังกล่าวจากกันเกราไปอีกนานแสนนาน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : ไม้ต้นประดับ, คู่มือคนรักต้นไม้

      ผ่านไปแค่ 1 ต้นไม้ใหญ่ ครั้งหน้าจะมาเล่าเรื่องต้นกระโดนกันบ้าง เอาแบบเห็นดอกเห็นผลกันไปเลย รอติดตามนะคะ ....

การไหว้แม่ย่านางรถ

อย่างที่รู้กันว่าความเชื่อของคนไทยเมื่อไรที่ออกรถมาใหม่ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือรถมือสองก็จะเคารพนับถือและบูชาแม่ย่านางรถซึ่งเป็นสิ่งศ...

บทความน่าสนใจ