วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560

การเลือกโคมไฟหน้าบ้าน...รับหน้าฝน

วันนี้นำเรื่องเกี่ยวกับบ้านมาฝากกันค่ะ ปัจจุบันบ้านส่วนใหญ่ที่มีรั้วล้อมรอบมักจะประดับรั้วบ้านด้วยโคมไฟสวยๆซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบจริงๆ แต่หลักการเลือกโคมไฟหน้าฝนนั้น…อย่าลืมดูค่า IP (มาตรฐานการป้องกันฝุ่นและความชื้น บ้านใครที่ไม่อยากให้ หลอดไฟเสียหายจากน้ำฝน ก่อนเลือกซื้อโคมไฟ จึงควรพิจารณาค่า IP ที่ข้างกล่องให้ดีๆนะคะ



ค่า IP คือ ค่ากันน้ำกันฝุ่นของโคมหรือหลอดไฟทั่วไปนั่นเอง ปกติจะมี ตัวเลขอยู่ 2 ตัว ตัวแรก คือ ระดับการป้องกันจากฝุ่น ส่วนตัวที่ 2 คือระดับการป้องกันน้ำ และยิ่งตัวเลขทั้ง 2 สูงเท่าไร ก็จะยิ่งช่วยป้องกันฝุ่นกันน้ำได้ดีเท่านั้นค่ะ
โดยพื้นที่กึ่งภายในกึ่งภายนอก เช่น ห้องน้ำ ชายคา ชานบ้าน ควรใช้โคมที่มีค่า IP 44 ขึ้นไป จึงจะช่วยกันฝุ่นและน้ำได้ทุกทิศทาง 

แต่ถ้าเป็นโคมสนาม หรือโคมปักดินในสวนที่ตั้งไว้กลางแจ้ง  แนะนำให้มีค่า IP  54 ขึ้นไปค่ะ ถึงจะสู้กับฝุ่นและฝนได้เต็มที่



รู้ค่า IP ที่เหมาะสมกันแล้ว ก็มองหาโคมไฟกันน้ำ IP สูง ได้มาตรฐาน ในราคาประหยัดได้แล้วนะคะ


ขอบคุณข้อมูลจาก nucifer.com

วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เรื่องกล้วยๆๆช่วยลดน้ำหนักได้

ถ้าจะพูดถึงปัญหาน้ำหนักส่วนเกิน พบว่ามีกันแทบจะทุกคน บางคนลองมาหลายวิธี น้ำหนักก็ยังไม่ลดอยู่ดี ทำให้ต้องหันไปพึ่งยาลดความอ้วน ที่ผสมสารอันตราย กินเข้าไปส่งผลกระทบต่อร่างกาย หรือไม่ ก็อาจถึงตายได้ จึงไม่อยากจะแนะนำ ส่วนบางคนก็อดอาหาร บังคับฝืนใจตัวเองมันก็จะยากซะเหลือเกิน ยิ่งถ้าหิวๆมากินเยอะกว่าเดิม ไม่ได้ผลแถมยังน้ำหนักขึ้นอีก

       หลังจากที่นักแสดงสาวชาวญี่ปุ่น Fukada Kyoko กินกล้วยเป็นอาหารเช้าและลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 12 กิโลกรัม ทำให้กล้วยกลายเป็นผลไม้ลดความอ้วนยอดฮิตไปซะแล้ว แต่เพื่อนๆรู้ไหมว่า จริงๆ แล้ว *กินกล้วยตอนมื้อเย็นเห็นผลมากกว่าอีกนะ*

       ผลการวิจัยของ Matsuoi Tsuneo แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านลำไส้ชาวญี่ปุ่น กล่าวว่าปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะกินอาหารเช้าปริมาณน้อยแต่กินอาหารเย็นเต็มที่ หากเราเปลี่ยนนิสัยการกินมื้อเย็นได้ การลดน้ำหนักก็จะเห็นผลเร็วมากขึ้น และยังได้แนะนำว่าก่อนอาหารมื้อเย็นให้กินกล้วยสัก 2 ผลตามด้วยน้ำเปล่า 200 มล. อีก 1 แก้ว  หลังจากนั้น 30 นาทีค่อยกินอาหารเย็น เพราะการกินกล้วยจะช่วยลดความอยากอาหาร ไม่ต้องอดอาหารอย่างทรมาน แล้วยังไม่ทำให้กลับมาอ้วนอีก ใช้เวลาสั้นๆ แค่ 10 วันก็สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 3 กิโลกรัม เชียวนะคะ

ข้อดีของการกินกล้วยในมื้อเย็น

1. สารอาหารมากมายและให้พลังงานต่ำ

                กล้วย1ผลให้พลังงาน 86 กิโลแคลอรี่ (ประมาณ100กรัม) เมื่อเปรียบกับข้าว1ถ้วยที่ให้พลังงาน 250 กิโลแคลอรี่ แล้วกล้วยยังทำให้อิ่ม อยู่ท้อง ไม่หิวง่ายและในกล้วยยังมีทั้งวิตามิน B6, วิตามิน C, แมกนีเซียม, โพแทสเซียมและแร่ธาตุต่างๆที่จำเป็นในการเสริมสร้างร่างกายด้วย

2. มีใยอาหารสูง ช่วยในการขับถ่าย

              ในกล้วยนั้นมีเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ช่วยเพิ่มจำนวนโปรไบโอติกและระบบภูมิคุ้มกันในลำไส้ และยังมีเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ ลดอาการท้องผูก

 3. กระตุ้นโกรทฮอร์โมน ลดริ้วรอยชะลอความแก่

              ร่างกายของเรานั้นจะสร้างโกรทฮอร์โมนหรือฮอร์โมนแห่งการเจริญวัย ช่วยชะลอวัยและเผาผลาญพลังงานมากที่สุด ในช่วงเข้านอน (ช่วงเวลา23.00-01.00น.)

เมื่อเรากินกล้วยในมื้อเย็นแล้ว กรดอาร์จีนีนในกล้วยจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยโกรทฮอร์โมนออกมา ช่วยชะลอความแก่ ลดความอ้วนได้ดี และในกล้วยยังมีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อน

เป็นวิธีที่ง่ายมากๆเลย หากอยากเห็นผลมากกว่าเดิมลองออกกำลังกายควบคู่จะดีมากๆ สุขภาพแข็งแรง ผิวพรรณสดใส ที่สำคัญไม่ต้องอดอาหารให้ลำบาก ลองดูค่ะ

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : postsod

วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ผ่อนบ้านแบบสบายๆต้องทำอย่างไร

ฝันของใครหลายๆ คนที่กำลังเริ่มต้นมีครอบครัว คงหนีไม่พ้นการซื้อบ้าน เพื่อเป็นทรัพย์สินของครอบครัวชิ้นแรก ดังนั้น หากเพื่อนๆกำลังมองหาบ้านหรือคอนโดฯ สักแห่ง นอกจากเรื่องของทำเลแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ งบประมาณในการซื้อบ้าน

ข้อแนะนำในเรื่องการวางแผนสำหรับการซื้อบ้านมี 2 ส่วนด้วยกัน คือ การเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่อ และ ปัจจัยที่ช่วยให้ผ่อนสบายกระเป๋า


ขอเริ่มที่เรื่องแรกก่อน คือ ในเตรียมตัวเตรียมใจก่อนขอสินเชื่อ มีสิ่งที่ต้องเตรียมดังนี้

1. เตรียม Statement ให้พร้อม หากคุณมีอาชีพทำงานประจำมีรายได้จากเงินเดือน สามารถใช้ Slip เงินเดือนหรือ หนังสือรับรองฯ 50 ทวิ ในการยืนยันรายได้ หากคุณมีอาชีพอิสระค้าขายทั่วไป ไม่มีเงินเดือนประจำ ก็สามารถกู้ได้ โดยต้องเตรียมหลักฐานแสดงที่มาที่ไปของเงินให้มีความชัดเจน เช่น บัญชีเงินฝากที่มียอดรายได้เข้าสม่ำเสมอ การเดินบัญชีกระแสรายวัน การใช้เช็ค เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นใจในการชำระหนี้คืนได้

2. รักษาเครดิต ในการขอสินเชื่อต้องมีการตรวจสอบสถานะสินเชื่อและประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาก่อน โดยการตรวจสอบเครดิตบูโร ดังนั้น ควรจะรักษาเครดิตไว้ให้ดี เพื่อมิให้เป็นข้อจำกัดในการขอสินเชื่อได้

3. เตรียมออมเงินให้เพียงพอ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการซื้อบ้านในปัจจุบันคือ เงินดาวน์บ้าน คุณควรกันเงินสำรองฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 6 เดือนก่อนกู้บ้าน และเตรียมเงินดาวน์อย่างน้อย 10% ของราคาบ้านที่ตั้งใจไว้ ยิ่งมีมากก็ช่วยลดภาระการผ่อนชำระลง เวลาขอสินเชื่อจะได้ผ่อนอย่างสบายกระเป๋า

หลังจากที่เตรียมตัวแล้ว ถึงเวลาจะจะกู้บ้านให้สบายกระเป๋า มี 4 ปัจจัยที่ต้องคำนึง คือ


1.เงินดาวน์มีเท่าไร ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น กำหนดให้ผู้ที่จะซื้อบ้านต้องมีเงินดาวน์ไม่น้อยกว่า 10% ของราคาบ้าน ดังนั้น หากจะซื้อบ้านราคาสัก 3 ล้านบาท จะต้องมีเงินเก็บเพื่อเป็นเงินดาวน์อย่างน้อย 3 แสนบาท หากมีเงินดาวน์มากกว่าก็จะทำให้ประหยัดค่าดอกเบี้ยลงไปได้อีก

2. ยอดผ่อนชำระต่อเดือน ปกติแล้วภาระการผ่อนรายเดือนที่ไม่หนักจนเกินไป ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ก่อนภาษี หากรายได้คนเดียวผ่อนไม่ไหว สามารถกู้ร่วมได้ ทั้งนี้ การกู้ร่วม ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด หรือเป็นสามีภรรยา

3. ระยะเวลาในการผ่อนชำระ ปกติจะผ่อนสูงสุดไม่เกิน 30 ปี เนื่องจากระยะเวลาผ่อนเมื่อรวมกับอายุของผู้กู้แล้ว ต้องไม่เกิน 60-65 ปี (ช่วงอายุเกษียณ) ระยะเวลาผ่อนสั้น ยอดผ่อนชำระรายเดือนจะมากกว่าระยะเวลาผ่อนยาว หากมีความสามารถในการผ่อนสูงสามารถเลือกผ่อนสั้นได้เพื่อให้หมดภาระได้เร็วและประหยัดค่าดอกเบี้ยจ่าย

4. รูปแบบอัตราดอกเบี้ย ปัจจุบันสถาบันการเงินมีทางเลือกให้กับผู้ขอสินเชื่อ ว่าจะผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ หรือ แบบลอยตัว ผู้ขอสินเชื่อควรเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ เมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และ ควรเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว เมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง

ปกติทั่วไป หากขอสินเชื่อ จำนวน 1 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อน 30 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 7% ต่อปี จะมียอดผ่อนชำระประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน ลองพิจารณาปัจจัยดังที่ได้กล่าวในเบื้องต้นว่า จะผ่อนบ้านอย่างไรให้สบายกระเป๋ากัน

หลังจากพิจารณาปัจจัยดังกล่าวแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การวางแผน ก็คือ การนำแผนมาปฏิบัติการ เนื่องจากเงินดาวน์เป็นก้าวแรกสำหรับการซื้อบ้าน ดังนั้น การเก็บออมเงินดาวน์ให้บรรลุเป้าหมายนั้น จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การบรรลุเป้าหมายเป็นได้ การออมเงินดาวน์ให้มีผลตอบแทนที่เหมาะสม และ มีสภาพคล่องในการแปลงเป็นเงินสดได้ เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาสำหรับแผนปฏิบัติการ คุณอาจจะพิจารณาเก็บออมในรูปของกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อให้มีสภาพคล่อง และมีผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป

นอกจากนี้ ในการกู้บ้านอย่าลืมพิจารณาปัจจัยเรื่องการวางแผนภาษี เนื่องจากกรมสรรพากรให้สิทธิสำหรับผู้ที่ซื้อบ้านสามารถนำดอกเบี้ยจ่ายมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท เป็นการบรรเทาค่าใช้จ่ายทางภาษีของคุณได้อีกทางหนึ่ง (เพิ่มเงินในกระเป๋ามากขึ้น) และเพื่อให้การวางแผนภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านหรือคอนโดฯ ก็เป็นเรื่องสำคัญในการวางแผนภาษีด้วย

ขอขอบคุณบทความดีๆจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

วันพุธที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560

นอนดึก...เกิดอะไรได้บ้าง


เช้านี้เอาเรื่องใกล้ตัวมากๆมาเล่าสู่กันฟังหน่อยนะ เราจะพบว่า ทุกวันนี้การใช้ชีวิตของคนเราเริ่มเปลี่ยไป ทั้งวัยรุ่น รวมถึงคนวัยทำงานเอง ต่างเคยชินกับการใช้ชีวิตตอนกลางคืน นอนดึก แต่ก็ต้องตื่นเช้าออกมาทำงาน หรือทำกิจกรรมอื่นๆ หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือนอนดึกแล้วตื่นสายไปเลย ด้วยการยึดคติที่ว่าต้องนอนให้ครบวันละ 8 ชั่วโมง ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะคะ ว่าการนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงนั้นก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณเข้านอนตอน ตี 3 ตี 4 แล้วไปตื่นเอาตอนเที่ยงหรือบ่าย ก็ไม่ได้ทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นหรอกนะคะ ทั้งยังเป็นการทำลายสุขภาพของคุณอีกด้วยค่ะ

เรามาดูกันว่า หากเรานอนดึก เราจะเจออะไรบ้าง โอ๊ะ!!!ไม่ใช่ผีน๊า ขอแบ่งเป็นข้อๆดังนี้นะคะ

1. ขี้ลืม ไม่มีสมาธิ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการนอนดึกนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของสมองคุณอย่างแน่นอน เมื่อคุณนอนดึก จะทำให้สมองของคุณรับรู้และตอบสนองช้า เบลอ พูดจาหรือสื่อสารไม่รู้เรื่อง เนื่องจากสมองของคุณไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ส่งผลให้สมองทำงานได้อย่างไม่เต็มที่ ไม่มีสมาธิที่จะจดจ่อกับสิ่งที่ทำ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อความจำ ทำให้คุณกลายเป็นคนขี้หลงขี้ลืมอีกด้วย

2. เครียดหรือหงุดหงิดง่าย

นอกจากการนอนดึกจะส่งผลต่อการทำงานของระบบสมองแล้ว ยังส่งผลกระทบไปถึงสภาวะทางอารมณ์ของคุณด้วย ลองสังเกตง่ายๆ ดูก็ได้ว่าหากวันไหนคุณนอนดึก คุณจะอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย ทั้งยังทำให้คุณกลายเป็นคนเครียดง่ายโดยที่ไม่รู้ตัว

3. ร่างกายทรุดโทรม

แน่นอนว่าการนอนดึกแล้วต้องตื่นเช้านั้นย่อมทำให้ร่างกายของคุณทรุดโทรม ไม่มีเรี่ยวแรง ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำลง ทำให้เรากลายเป็นคนเจ็บป่วยง่าย

4. น้ำหนักขึ้น

ข้อนี้หลายคนน่าจะเคยประสบพบเจอ เมื่อนอนดึกร่างกายจะหลั่งสารคอร์ติโซลออกมา ทำให้เกิดอาการรู้สึกหิวได้ง่าย ยิ่งดึกยิ่งกิน เมื่ออิ่มแล้วก็รู้สึกง่วงขึ้นมาทันที ทั้งๆ ที่ระบบย่อยอาหารทำงานไม่เต็มที่ แถมบางทียังต้องทำงานหนักมากด้วยซ้ำ นั่นจึงเป็นเหตุให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัวค่ะ ข้อนี้น่ากลัวนะคะสำหรับคนรักสวยรักงาม ว่ามั้ยคะ?

5. แก่ก่อนวัย


ข้อนี้ก็น่ากลัวนะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการนอนดึกทำให้หน้าแก่ก่อนวัยจริงๆ ลองสังเกตดูสิว่าวันไหนที่คุณนอนดึกมากๆ ใบหน้าคุณจะโทรม ใต้ตาจะหมองคล้ำ เพราะเลือดไหลเวียนไม่ทั่วบริเวณรอบดวงตา ซึ่งเป็นส่วนที่ผิวหนังอ่อนบางมากจึงเห็นได้ชัดที่สุด นอกจากนี้ผิวพรรณก็จะดูไม่สดใส ผิวหนังเหี่ยวย่น เพราะฮอร์โมนทำงานไม่คงที่

6. ทำลายการทำงานของระบบในร่างกาย

พฤติกรรมการนอนดึกนั้นสามารถทำลายระบบการทำงานภายในร่ายกายของเราได้อย่างไม่รู้ตัว ยกตัวอย่างง่ายๆ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ การกิน เมื่อเรานอนดึก ก็จะทำให้เราหิวจนต้องหาอะไรมาทานในเวลากลางคืน ส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารต้องทำงานอีก หรือแม้กระทั่งบางครั้งคุณอยู่ทำงานตอนดึกๆ สมองก็ยังคงต้องทำงานอยู่กับคุณ ทั้งๆ ที่ควรเป็นเวลาพักผ่อนแล้วแท้ๆ

7. ระบบการนอนรวน


หลายคนอาจเถียงด้วยความคิดที่ว่า “คนเราต้องนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง” จริงอยู่ค่ะว่าเราควรนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง แต่ถ้าคุณเล่นไปนอนตอนตี 3 แล้วตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเที่ยง หรือบ่ายโมงไปแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้นนะ แถมยังทำให้คุณพลาดอาหารมื้อที่สำคัญที่สุดอย่างมื้อเช้าไปอีก หรือในกรณีที่บางคนนอนดึกตื่นเช้า ทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ง่วงระหว่างวันจนต้องแอบไปงีบหลับสัก 1-2 ชั่วโมง เมื่อถึงเวลาเข้านอนตามปกติ คุณก็จะยังไม่ง่วง แล้วไปรู้สึกอยากนอนอีกทีก็หลังเที่ยงคืนซะแล้ว

จะเห็นได้ว่าการนอนดึกนั้นไม่เป็นผลดีต่อร่างกายของคุณเลยสักนิด นอกจากจะทำให้คุณพักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย ลองทบทวนดูก่อนว่าที่เรานอนดึกเพราะอะไร? หากเป็นเพราะเรื่องการเรียนหรือการทำงาน เราก็ควรที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่ ยอมตื่นเช้าสักนิด จะได้มีเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่นอีกมากมาย หรือถ้าคุณนอนดึกนั้นเป็นเพราะสาเหตุของการแชท หรือท่องโลกโซเชียลแล้วล่ะก็ คุณก็คงต้องกลับมาถามตัวเองแล้วล่ะว่าอยากสนุกเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ หรือเสียสุขภาพไปในระยะยาวกันคะ

 ที่มา :

www.thaihealth.or.th

www.healthiie.com

www.sukkaphap-d.com

วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ข้อคิดในวันที่พ่อไม่อยู่

เพิ่งผ่านวันพ่อของปวงชนชาวไทยมาได้ไม่นาน นึกขึ้นมาได้ว่าเราอ่านเจอบทความที่ดีมากๆเลย จึงจะขอเก็บบันทึกไว้ในบล็อกประจำตัวซักหน่อย อ่านแล้วได้ข้อคิดหลายแง่มุมทีเดียว จึงอยากแชร์ไว้ให้เพื่อนๆได้อ่านกันบ้าง ลืมบอกไปว่าเป็นบทสัมภาษณ์ของ ร.๑๐ และสมเด็จพระเทพฯ  ซึ่งมีผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งส่งมาให้  เป็นประโยชน์มากๆ ควรจดจำให้ขึ้นใจ..ทิ้งไม่ได้แม้แต่ข้อเดียว..เลยคัดลอกมาให้ทุกท่านได้อ่านด้วยกันค่ะ

ร.10และพระเทพฯทรงให้สัมภาษณ์ BBCไว้ดีมากทั้ง 2 พระองค์

ข้อคิดในวันที่พ่อไม่อยู่

1. จากนี้ไปประเทศไทยของเราจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีก อาจมีหลายสิ่งเปลี่ยนไป รอยต่อของคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อาจชัดเจนขึ้น มันคือการเปลี่ยนผ่านในวันที่พ่อไม่อยู่ ทุกคนมีสิทธิ์เสียใจ และควรเสียใจ ทุกคนมีสิทธิ์กลัว และควรกลัว แต่จงตระหนัก เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้วยสติปัญญา

2. พ่อคือตัวแทนของความพอเพียง เป็นต้นฉบับของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในวันที่ประเทศไทยกำลังถูกปั่นด้วยกระแสความโลภ จงหยิบภูมิปัญญาของท่านมาใช้ให้เกิดประโยชน์ จดจำหลอดยาสีฟันของท่านไว้ จดจำการแต่งกายที่เรียบง่ายของท่านไว้ อะไรที่ประหยัดได้จงประหยัด อะไรที่พึ่งพาตนเองได้จงพึ่งพา อะไรที่แบ่งปันได้จงแบ่งปัน เมื่อยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้แล้ว เราจะพึ่งพาผู้อื่นน้อยลง

3. พ่อเป็นผู้มีความเพียรดุจพระมหาชนก ท่านเป็นผู้ว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรโดยไม่เคยถามว่าเมื่อไหร่จะถึงฝั่ง ความคิดเช่นนี้ทำให้ท่านทำงานที่ยิ่งใหญ่ได้ ฝากถึงคนไทย อย่าทำงานด้วยตัณหา อย่าขับเคลื่อนชีวิตด้วยความอยากมี อยากได้ อยากเป็น อย่าให้อำนาจวัตถุบังตาจนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี จงขับเคลื่อนชีวิตและการงานด้วยฉันทะ ความรัก ความเมตตา ด้วยประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เหมือนที่พ่อเคยทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง



4. พ่อยืนเคียงข้างคนยากจนเสมอ คนจนอยู่ที่ไหนท่านก็อยู่ที่นั้น ท่านเดินทางบุกป่าฝ่าดงไปเยี่ยมพวกเขาถึงบ้าน เป็นพระราชาผู้อยู่ง่าย กินง่าย ไม่ยึดติดความหรูหรา เมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว เราอย่าหลงลืมปณิธานข้อนี้ อย่าทอดทิ้งคนยากจน จงหยิบยื่นโอกาสให้ผู้ด้อยกว่า อย่าใช้ช่องว่างกฎหมายซ้ำเติมและเอาเปรียบผู้อื่น

การไหว้แม่ย่านางรถ

อย่างที่รู้กันว่าความเชื่อของคนไทยเมื่อไรที่ออกรถมาใหม่ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือรถมือสองก็จะเคารพนับถือและบูชาแม่ย่านางรถซึ่งเป็นสิ่งศ...

บทความน่าสนใจ